นี่ก็คือ สเปคอย่างเป็นทางการ ของแอนดรอยด์โฟนระดับ High-end ที่หลายๆ คนรอคอย Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) ซึ่งการออกแบบ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) นั้น คล้ายคลึงกับ Samsung Galaxy Nexus โดยสเปคของ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3) เป็นดังนี้
- จอแสดงผลขนาด 4.8 นิ้ว แบบ HD Super AMOLED Display ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล
- ระบบประมวลผลแบบ Quad-core (Exynos 4 Quad) Processor ความละเอียด 1.4GHz
- ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 Ice Cream Sandwich
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16GB, 32GB และ 64GB
- กล้องด้านหน้า ความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash มีโหมดถ่ายภาพแบบต่อเนื่อง 3.3 ภาพต่อวินาที
- User Interface แบบ TouchWiz Nature UX
- รองรับเครือข่าย 3G และ 4G LTE , Bluetooth 4.0, Wi-Fi Direct, DLNA, MHL microUSB port
- รองรับเทคโนโลยี NFC
- ใช้ microSIM
- ตัวเครื่องหนา 8.6 มิลลิเมตร หนัก 133 กรัม
- แบตเตอรี่ความจุ 2100 mAh
- มี 2 สี ได้แก่ ขาว Marble white และ น้ำเงิน Pebble blue
การออกแบบ Samsung Galaxy S III (Samsung Galaxy S 3)
หน้าตาของ Samsung Galaxy S3 (III) คล้ายกับ Samsung Galaxy Nexus ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การออกแบบ รวมไปถึงขนาดหน้าจอ เพียงแต่ว่า Samsung Galaxy S III นั้น ยังมีปุ่ม Home แบบปุ่มกดจริงอยู่ ในขณะที่ Samsung Galaxy Nexus ไม่มี
จากเดิม ดีไซน์ด้านหลังของ Samsung Galaxy S II นั้น จะเป็นพลาสติก ผิวขรุขระครับ แต่ Samsung Galaxy S III นั้น ได้มีการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวใหม่ เป็นบอดี้แบบพลาสติกผิวมันวาวแทน ซึ่งพลาสติกบน Samsung Galaxy S3 (III) นั้น เป็นโพลีคาร์บอเนต ที่เคลือบผิวด้วย Hyperglaze ที่ผ่านขั้นตอนการเคลือบผิวด้วยเซรามิกนั่นเอง แน่นอนว่า คุณภาพนั้น ย่อมดีกว่าโพลีคาร์บอเนตอย่างแน่นอนครับ ซึ่งนอกจากจะมีน้ำหนักเบาแล้ว ยังแข็งแรงทนทานอีกด้วย
สำหรับปุ่ม Home นั้น ยังคงเป็นปุ่มแบบ physical ซึ่งกดได้จริง ไม่ใช่ปุ่มแบบ capacitive หรือปุ่มเสมือนจริงครับ โดยการออกแบบปุ่ม Home บน Samsung Galaxy S III นั้น มีรูปร่างที่เพรียวบางกว่า Samsung Galaxy S II นอกจากนี้ ไอคอน UI นั้น ยังเป็นแบบ 5 แถว ในขณะที่ Samsung Galaxy S II มีเพียงแค่ 4 แถว นั่นเป็นเพราะ Samsung Galaxy S III นั้น มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่านั่นเอง
S Voice สั่งการด้วยเสียง
ในเมื่อ iOS มี Siri เป็นผู้ช่วยไปแล้ว ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์บนสมาร์ทโฟนซัมซุงอย่าง Samsung Galaxy S 3 (III) ก็มี S Voice เป็นเลขาเช่นกัน ซึ่งคุณสมบัติของ S Voice นั้น สามารถสั่งให้ Samsung Galaxy S 3 (III) เปิดแกลอรี่ภาพถ่าย หรือสั่งให้กดชัตเตอร์เอง โดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องสัมผัสปุ่มชัตเตอร์แต่อย่างใด
ถึงแม้ Samsung Galaxy S3 (III) (ซัมซุงกาแลคซี่เอส 3) จะไม่มีปุ่ม Shutter มาให้ แต่ผู้ใช้งานสามารถสั่งให้ชัตเตอร์ได้ ด้วยการใช้ S Voice นั่นเองครับ ถือว่า เป็นฟังก์ชั่นที่สะดวกมากเลยทีเดียว
S Voice รองรับทั้งหมด 8 ภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ(สหรัฐอเมริกา), ภาษาอังกฤษ (สหราชอาณาจักร), ภาษาอิตาลี, ภาษาเยอรมัน, ภาษาเมดิเตอร์เรเนียน, ภาษาละติน, ภาษาสเปน และภาษาเกาหลี
S Beam ส่งภาพถ่ายหรือวิดีโอ
คงจะพอจำกันได้ กับฟีเจอร์ Android Beam บน Samsung Galaxy Nexus ซึ่งบน Samsung Galaxy S3 (III) นั้น ก็มีฟีเจอร์นี้เช่นกัน ซึ่งมีชื่อว่า S Beam ครับ โดยผู้ใช้งาน Samsung Galaxy S3 (III) (ซัมซุงกาแลคซี่เอส 3) สามารถส่งภาพ หรือวิดีโอ ผ่าน NFC หรือ WiFi Direct ได้ ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 300 Mbps
Eye-tracking ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวของลูกตา
บ่อยครั้งที่ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน จำเป็นต้องสัมผัสหน้าจอบ่อยๆ เนื่องจากหน้าจอจะดับลงถ้าหากไม่มีการสัมผัสเกินเวลาที่กำหนด แต่บน Samsung Galaxy S 3(III) นั้น มีระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวของลูกตา ทำให้หน้าจอ Samsung Galaxy S3 (III) (ซัมซุงกาแลคซี่เอส 3) ไม่ปิด หรือสลัวลง ถ้าหากผู้ใช้งานยังคงมองหน้าจออยู่
Direct Call โทรออกได้ง่าย แค่ยกหู ไม่ต้องกดเบอร์
ในขณะที่ผู้ใช้งานกำลังพิมพ์ข้อความส่งไปหาบุคคลที่ 3 แต่เกิดเปลี่ยนใจอยากจะโทรไปหาแทน ก็ไม่ต้องกดปุ่ม หรือเบอร์โทรออกให้ยุ่งยากครับ เพราะ Samsung Galaxy S3 (III) (ซัมซุงกาแลคซี่เอส 3) สามารถให้ผู้ใช้งาน ทำการโทรออกได้ง่ายๆ เพียงแค่ยกแนบหู ระบบจะทำการโทรออกให้อัตโนมัติครับ
Buddy Photo Share แชร์รูปกับเพื่อนๆ ได้อย่างง่ายดาย
Samsung Galaxy S3 (III) (ซัมซุงกาแลคซี่เอส 3) มีฟีเจอร์ Buddy Photo Share สามารถจดจำ tag และแชร์รูปกับเพื่อนๆ หรือครอบครัวได้ด้วยเทคโนโลยีจดจำใบหน้า หรือ Face Recognition โดยที่ไม่ต้องนั่งกด tag ทีละรูปให้เสียเวลา
รองรับเครือข่าย 4G
เพิ่มประสิทธิภาพในการท่องโลกอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้น ด้วยคุณสมบัติในการรองรับเครือข่าย 4G LTE ซึ่ง Samsung Galaxy S3 (III) จะจำหน่ายทั้งรุ่นที่รองรับ 3G เพียงอย่างเดียว และรุ่นที่รองรับ 4G LTE โดย Samsung Galaxy S III รุ่นรองรับเครือข่าย 4G LTE นั้น จะวางจำหน่ายในช่วงหน้าร้อนนี้ หรือประมาณเดือนกรกฏาคมนั่นเอ
S Voice สั่งการด้วยเสียง << ชอบตรงนี้ ...
ตอบลบไฮเทค......มาก ไม่เหมือนใครดี